Translate

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

ตัวอย่างพันธุ์พืชในโรงเรียน


หูกวาง

ชื่อทางพฤกษศาสตร์  :  Terminalia  Catappa,  Linn
วงศ์  :  COMBRETACEAE
ชื่อที่เรียก  :  ในไทยทั่วไปเรียก  หูกวาง  ภาคใต้เรียก  โคน,  ดัดมือหลุมบังพายัพเรียก  ตาปัง
ลักษณะ  :  เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง  มีกิ่งก้านแตกแผ่ออกไปรอบต้นเป็นชั้นๆดูคล้ายฉัตร ถ้าต้นงามจะแตกแผ่ออกเป็น  2-3  ชั้น  สวยดี  ใบโตใหญ่รูปลักษณะคล้ายหูกวางจริงๆ  แต่โตกว่าหูของกวาง  จึงเรียกว่าต้นหูกวาง  ใบเขียวแก่และหนา  ใช้เป็นไม้ร่มดี  ดอกเป็นช่อเล็กๆยาวๆแกมเขียวๆ  เหลืองๆ  มีผลเกิดจากดอกกลมเเบนๆ  มีสันขึ้นเป็นปีกโดยรอบ  เมล็ดในโต  รับประทานได้เป็นอาหาร
การเจริญเติบโต  :  เป็นไม้ที่เกิดตามป่าราบทั่วๆไป  ปลูกตามบ้านตามวัดเป็นไม้ร่มบังแดดได้ดี  เพราะใบมีพุ่มงาม  ขึ้นได้ในดินทุกภาคของประเทศไทย  ขยายพันธ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ประโยชน์  :  ใช้เป็นร่มไม้ได้ดีมาก  แต่ไม่ใคร่มีใครปลูกใกล้ตัวอาคารบ้านเรือน  ยิ่งเป็นตึกยิ่งไม่หน้าปลูก  เพราะเป็นไม้โตเจริญเร็ว  ร่กจะดันตัวอาคารทำให้ตัวอาคารแตจกหรือร้าวเสียหายหมดใบแก่ให้สีขี้ม้าและนำมาใช้ในการย้อมผ้าได้ เมล็ด นำเอามาทำเป็นอาหารรับประทานได้  ต้นหูกวางนี้มีชื่อทางการค้าว่า  indian almond ใช้รับประทานแก้ขัดเบา   แก้นิ่ว
บริเวณที่พบในโรงเรียน ข้างสนามเทนนิส
                                                                                                                    


 พญาสัตบรรณ

พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดสมุทรสาคร
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris  (L.) R. Br.
วงศ์ APOCYNACEAE
ชื่อสามัญ White Cheesewood
ชื่ออื่น ตีนเป็ด หัสบัน สัตบรรน จะบัน บะซา
ไม้ต้น  ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 - 35 เมตร โคนต้นมักเป็นพูพอน 
เปลือก  สีเทาอ่อนหรือเทาอมเหลือง ค่อนข้างหนา 
ใบ  ใบเดี่ยวเรียงกันเป็นวง 4 - 7 ใบ แผ่นใบรูปมนแกมรูปไข่กลับ ปลายแหลมเป็นติ่งเล็กน้อยโคนสอบ เข้าหากันเป็นรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ 
ดอก  ดอกเล็ก สีเขียวอมเหลือง หรืออมขาวออกเป็นกลุ่มในช่อซึ่งแยกกิ่งก้าน       ออกจากจุดเดียวกันตามปลายกิ่ง 
ผล  เป็นฝักเรียว ยาว 10 - 20 เซ็นติเมตร เมล็ดแบบทรงบรรทัดแคบ ๆ ยาว ประมาณ 7มิลลิเมตร มีขนยาวอ่อนนุ่มปุกปุยติดอยู่เป็นกระจุกที่ปลายทั้งสองข้าง
นิเวศวิทยา ขึ้นกระจายอยู่ห่าง ๆ ในป่าดงดิบชื้นทางภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงใต้   และริมลำห้วยในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ออกดอก  ตุลาคม - ธันวาคม เริ่มติดฝักประมาณเดือนมกราคม   เมล็ดแก่ประมาณเดือน มีนาคม
ขยายพันธุ์  โดยเมล็ด
ประโยชน์ เนื้อไม้สีขาวอมเหลืองอ่อน เนื้อไม้หยาบ อ่อนแต่เหนียว ตบแต่งง่าย ใช้ทำหีบใส่ของ ลูกทุ่นอวน  รองเท้าไม้ ของเล่นสำหรับเด็ก ไม้จิ้มฟัน เปลือกใช้รักษาโรคบิด แก้หวัด หลอดลมอักเสบ เป็นยาสมานลำไส้  ใบใช้พอกดับพิษต่าง ๆ ยางทำยารักษาแผลเน่าเปื่อย
บริเวณที่พบในโรงเรียน : ตึก 60 ปี
                                                                                                                    

สนประดิพัทธ์

ชื่อวิทยาศาสตร์ Casuarina junghuhniana Mig.
ชื่อวงศ์ Casuarinaceae
ชื่อสามัญ สนประดิพัทธ์
ลักษณะทั่วไป: สนประดิพัทธ์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางมีความสูงประมาณ 10-20 ม. ไม้ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เปลือกของลำต้น สีน้ำตาลปนเทา แตกเป็นร่องตื่น ๆ ลอกเป็นแผ่นลึก ๆ ห้อยตามลำต้น
รูปทรง (เรือนยอด) รูปกรวยแหลม กิ่งขนาดเล็กทำมุกแหลมกับลำต้นและแตกกิ่งเป็นระเบียบ
ใบ ใบเล็กแหลมติดอยู่ตามข้อของกิ่งย่อย
ดอก ดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ต่างดอกกันอยู่บนกิ่งแม้ในต้นเดียวกันหรือต่างต้นดอกเพศผู้เป็นช่อแบบหางกระรอก เกิดตามปลาย ๆ กิ่งย่อย ส่วนดอกเมียเป็นช่อกลมอยู่ใกล้ ๆ กิ่งใหญ่
ผล ผิวแข็งเรียงอัดกันเป็นก้อนกลม ๆ
การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า ใช้หน่อจากรากตอนจากกิ่งที่เกิดจากราก ต้น ยอดของต้น และปลายกิ่งการชำกิ่ง กล้าไม้ที่ได้จากทั้ง 3 ส่วนข้างต้น จำเป็นต้องอาศัยผู้มีความรู้ และประสบการณ์ พอสมควร จึงจะสามารถดำเนินการได้
การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้ เสาโป๊ะ เสากระโดงเรือ ทำฟืนและถ่าน ไม้กระดาน ไม้ฝา
บริเวณที่พบในโรงเรียน : บริเวณรอบสนามฟุตบอล
                                                                                                                    

สวนพฤกษ์ศาสตร์คืออะไร?

สวนพฤกษศาสตร์ คือ แหล่งที่รวบรวมพันธุ์พืชชนิดต่างๆ ที่มีชีวิต จัดปลูกตามความเหมาะสมกับสภาพถิ่นอาศัยเดิม มีห้องสมุด สถานที่เก็บรวบรวมตัวอย่างพรรณไม้รักษาสภาพ อาจเป็นตัวอย่างแห้ง ตัวอย่างดอง หรือเก็บรักษาโดยวิธีอื่นๆ พันธุ์พืชที่ทำการเก็บรวบรวมไว้นั้น จะเป็นแหล่งข้อมูลและเผยแพร่ความรู้ นอกจากนี้สามารถใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
          สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในโรงเรียน ที่ใช้เพื่อการเรียนรู้โดยมีพืชเป็นปัจจัยหลัก ชีวภาพอื่นเป็นปัจจัยรอง กายภาพเป็นปัจจัยเสริม และวัสดุอุปกรณ์เป็นปัจจัยประกอบ
          งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน คือ งานสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ทรัพยากรชีวภาพ และกายภาพ โดยมีการสัมผัส การเรียนรู้ การสร้างและปลูกฝังคุณธรรม การเสริมสร้างปัญญาและภูมิปัญญา


ประโยชน์ของสวนพฤกษศาตร์

การใช้ประโยชน์ต่อเนื่องจากสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในทรรศนะของนักพฤกษศาสตร์
การใช้ประโยชน์ต่อเนื่องจากสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนจำแนกได้เป็น 3 ประเภท ใหญ่ ๆ ดังนี้
    1.  การใช้ประโยชน์ในการเรียน การสอนทางวิทยาศาสตร์ เช่น ชีววิทยา นิเวศวิทยาเกษตร และวิทยาศาสตร์กายภาพ
    2.  การใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนวิชาอื่นๆ เช่น ภาษาไทย สังคมศึกษา พุทธศาสนา สุขศึกษา ศิลปะ และอื่นๆ
    3.  การใช้ประโยชน์ทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
    4.  การใช้ประโยชน์ทางด้านการอนุรักษ์

1.การใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนวิชาทางวิทยาศาสตร์
  - เป็นแหล่งที่รวบรวมตัวอย่างของจริง
  - เป็นแหล่งที่รวบรวมตัวอย่างของจริงที่นำมาใช้ในการเรียนการสอนได้
  - การเรียนการสอนทางด้านชีววิทยา มีหลายสาขา เช่น
        + ความหลากหลายของพืช ศึกษาชนิดต่างๆ ของพืชสังเกตความแตกต่างและกลุ่มชนิดต่างๆ ของพืช
        + การจัดจำแนก ศึกษาการจัดกลุ่มพืชสัณฐานวิทยาของพืช ศึกษาลักษณะของส่วนประกอบต่างๆ ของพืช
        + กายวิภาคของพืช ศึกษาการทำงานของส่วนต่างๆ ของพืช
        + การเกษตร การปลูก การดูแลรักษาพืช
        + โครงการวิทยาศาสตร์ การทดลอง ค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ เช่น
             .. การเรียนการสอนด้านนิเวศวิทยา เช่น สังคมพืช พืชบก พืชน้ำพืชอิงอาศัย
             .. การปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างการจับตัวของพืชน้ำแบบจมใต้น้ำ ลอยน้ำ เป็นต้น
             .. การอยู่ร่วมกันระหว่างพืชกับสัตว์   
             .. การถ่ายละอองเรณูของพืชโดยอาศัยแมลง และอื่นๆ เป็นตัวอย่างของสิ่งแวดล้อมที่ดี               
   - เป็นพื้นที่สีเขียวของโรงเรียนการเรียนการสอนทางชีววิทยาและนิเวศวิทยาในระดับประถมและมัธยม ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะเป็นพื้นฐานต่อขึ้นไปในระดับมหาวิทยาลัยปัจจุบันมีผู้เรียนทางด้านพฤกษศาสตร์น้อยลงจึงเป็นการขาดกำลังทางด้านการศึกษา และ อนุรักษ์ทรัพยากรทางด้านธรรมชาติในประเทศไทยเป็นอย่างมากจึงควรมีการปูพื้นฐานให้เด็กรู้จัก  พืชมากๆ จะได้ทำให้เด็กๆ มาสนใจในทางด้านนี้มากขึ้น

2. การใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนวิชาอื่นๆ
        2.1  วิชาภาษาไทย
            2.1.1  เชื่อมโยงพันธุ์ไม้กับขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อ
                     เช่นประเพณีการในการไหว้ครู เป็นต้น
            2.1.2  เชื่อมโยงกับสำนวนไทย คำพังเพย สุภาษิต เป็นต้น
            2.1.3  เชื่อมโยงกับวันสำคัญ เช่นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ในวันพ่อ วันแม่ เป็นต้น
            2.1.4  เชื่อมโยงกับวรรณคดีไทยทำให้จดจำได้ซาบซึ้งถึงบทกลอนวรรณคดีเหล่านั้น
                    ได้เป็นอย่างดีมากยิ่งขึ้น
            2.1.5  ฝึกการเขียนบทความกึ่งวิชาการที่น่าสนใจโดยระบุถึงประโยชน์และความงามหรือจุดเด่นต่าง ๆ ได้
      2.2  วิชาพุทธศาสนา
           2.2.1  ใช้พันธุ์เปรียบเทียบสัจธรรม
           2.2.2  ใช้พันธุ์ไม้บางชนิดสื่อโยงไปถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
           2.2.3  แสดงถึงบทบาทของพันธ์ไม้ที่มีต่อสังคมมาแต่บรรพกาล
       2.3  วิชาสังคมศึกษา
           2.3.1  เปรียบเทียบการอยู่ร่วมกันของพันธ์ไม้ในสังคมพืชกับสังคมมนุษย์
           2.3.2  เปรียบเทียบความหลากหลายของพันธ์ไม้กับความหลากหลายในสังคมมนุษย์
       2.4  วิชาสุขศึกษา
           2.4.1  แสดงให้เห็นสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้สุขภาพกายและจิตดียิ่งขึ้น
           2.4.2  พันธุ์ไม้ที่ใช้เป็นยารักษาโรค
           2.4.3  พันธุ์ไม้ที่ใช้เป็นอาหาร
    2.5วิชาลูกเสือและเนตรนารี หรืออนุกาชาด
           2.5.1  ใช้เป็นบริเวณฝึกสังเกต การสะกดรอย และการตั้งค่าย
           2.5.2  ใช้ในการยังชีพ เช่น ต้นไม้ที่รับประทานได้ ต้นไม้ที่เป็นพิษ
           2.5.3  ใช้ในการบำเพ็ญประโยชน์
    2.6วิชาศิลปะ
           2.6.1  การวาดภาพจากตัวอย่างพันธุ์ไม้ในสวน
           2.6.2  การทำภาพพิมพ์ใบไม้
           2.6.3  การประดิษฐ์ผลงานศิลปะ จากดอกไม้แห้ง ใบแห้งและผลหรือกิ่งไม้แห้งๆ
           2.6.4  การวาดภาพเกี่ยวกับต้นไม้โดยจินตนาการอิสระ
           2.6.5  การวาดภาพจากต้นไม้ โดยรับเรื่องประวัติ และการใช้ประโยชน์มาก่อนแล้วจินตนาการจากข้อมูลเหล่านั้น  การใช้ประประโยชน์ในวิชาอื่น ผู้สอนสามารถใช้ได้ทุกวิชาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณนของผู้สอนที่ปรับให้เหมาะสม



วัตถุประสงค์ของสวนพฤกษ์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

1. ปลุกจิตสำนึกให้นักเรียนมีความรัก หวงแหน และเห็นคุณค่าของพืชพรรณไม้ ตามแนวพระราชดำริฯ
2. เพื่อให้โรงเรียนเป็นแหล่งรวบรวมตัวอย่างพรรณไม้ ข้อมูลพรรณไม้และการเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ของการศึกษา และเผยแพร่สู่ภายนอก
3. เพื่อใช้บูรณาการในการเรียนการสอนวิชาต่าง ๆ ได้หลากหลาย 
4. เพิ่มความร่มรื่นสวยงามในบริเวณโรงเรียน ส่งผลดีต่อสุขภาพของนักเรียนและบุคลากร



แนวคิดของสวนพฤกษ์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

         ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีพระราชดำริบางประการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช  “การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พืชพรรณนั้น ควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม  ความน่าสนใจ และเกิดความปิติที่จะทำการศึกษา และอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป  การใช้วิธีการสอนการอบรมที่ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวว่าหากไม่อนุรักษ์แล้วจะเกิดผลเสีย   เกิดอันตรายแก่ตนเอง  จะทำให้เด็กเกิดความเครียด  ซึ่งจะเป็นผลเสียแก่ประเทศในระยะยาว
          โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯได้สนองพระราชดำริโดยจัดทำโครงการ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเพื่อเป็นสื่อให้เยาชนนั้นได้ใกล้ชิดกับพืชพรรณไม้เห็นคุณค่าประโยชน์ ความสวยงาม อันจะก่อให้เกิดความคิดที่จะอนุรักษ์พันธุกรรมพืชต่อไป
           สวนพฤกษศาสตร์ คือแหล่งที่รวบรวมพืชพรรณไม้ต่างๆที่มีชีวิต จัดการปลูกตามความเหมาะสมในสภาพที่คล้ายกับถิ่นอาศัยเดิม มีห้องสมุดมีสถานที่เก็บรวบรวมตัวอย่างพรรณไม้  รักษาสภาพ  อาจเป็นตัวอย่างแห้งตัวอย่างดอง หรือเก็บรักษาโดยวิธีอื่น   ใช้เป็นแหล่งข้อมูลและมีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพืชพรรณไม้นอกจากนี้สามารถใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย
           กิจกรรมทั้งหลายเหล่านี้สามารถดำเนินการได้ในพื้นที่ของโรงเรียนเกิดเป็นสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนที่ให้ประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าและการเรียนการสอนวิชาต่าง ๆ






ต้นไม้บริเวณต่างๆในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

   ตึกศิลปะ
 1.จามจุรี                             
 2.นนทรี                              
 3.ชมพูพันธุ์ทิพย์                 
 4.ประดู่บ้าน                          
 5.อินทนิลน้ำ                        
 6.พญาสัตบรรณ                     
 7.เสลา                             
 8.ปาล์มขวด                   
 9.หมากนวล                     
10.โมก 
11.มะพร้าว
12.ลั่นทมดอกขาว
13.พระศรีมหาโพธิ์
14.อโศกเซนคาเบรียล
15.ราชพฤกษ์
16.มะม่วง
17.ปาล์มพัด
18.ตะโกดัด
19.ยูคาลิปตัส
20.แก้ว                          


   ตึก1
 1.หูกวาง                                
 2.ลั่นทมขาว                            
 3.อโศกเซนคาเบรียล              
 4.แก้ว                                
 5.สัก                              
 6.ปาล์มหางสุนัขจิ้งจอก         
 7.หมากเขียว                     
 8.เข็มขาว                            
 9.ตะลิงปลิง
10.นนทรี
11.ประดู่บ้าน
12.ราชพฤกษ์
13.จำปี
14.กันเกรา
15.หมากนวล
16.จันทน์ผา
17.วาสนา


   ตึก2
 1.จามจุรี                             
 2.นนทรี                                 
 3.ชมพูพันธุ์ทิพย์                        
 4.พิกุล                                   
 5.พระศรีมหาโพธิ์                         
 6.อโศกเซนคาเบรียล                 
 7.อินทนิลน้ำ                            
 8.มะม่วง                               
 9.ประดู่ป่า                               
10.กระดังงาไทย                         
11.ตะแบก
12.หูกวาง
13.ประดู่แดง
14.ทองกวาว
15.กระทิง
16.ประดู่บ้าน
17.มะขาม
18.แคฝรั่ง
19.สัก
20.มะฮอกกานี
21.แสงจันทร์


   ตึก3
 1.จามจุรี                                  
 2.นนทรี                                 
 3.ชมพูพันธุ์ทิพย์                       
 4.อโศกเซนคาเบรียล                    
 5.ปีบ                                   
 6.สัก                                 
 7.สนประดิพัทธ์                     
 8.ซองออฟจาไมก้า              
 9.ปรงเขา                             
10.ตะลิงปลิง
11.หูกวาง
12.สนฉัตร
13.ประดู่บ้าน
14.โพธิ์ขี้นก
15.พญาสัตบรรณ
16.โมก
17.ข่อย
18.ประทัดจีน
19.ปาล์มแชมเปญ


   หอประชุม
1.นนทรี                              
2.ประดู่บ้าน                       
3.มะฮอกกานี                    
4.ตะโกนา                             
5.ชมพูพันธุ์ทิพย์
6.แก้ว
7.ปาล์มขวยด
8.จามจุรีสีทอง


   ห้องสมุด
 1.นนทรี                                 
 2.โพธิ์ขี้นก                            
 3.เสลา                        
 4.ลั่นทมดอกแดง                  
 5.เข็มเศรษฐี                         
 6.หมากคอนวล(หมากนวล)      
 7.ชาฮกเกี๊ยน(ชาดัด)                 
 8.แสงจันทร์                      
 9.สนฉัตร
10.มะขาม
11.ทองหลางหลาย(ปาริชาด)
12.ประดู่บ้าน
13.หมากเขียว
14.เฟื่องฟ้า
15.ข่อย
16.พุทธรักษา


   สนามฟุตบอล
1.สนประดิทพัทธ์                        
2.ประดู่บ้าน                           
3.ชมพูพันธุ์ทิพย์
4.อโศกเซนคาเบรียล
5.กระทุ่มหูกวาง


   ตึกวิทยาศาสตร์
 1.สนฉัตร                           
 2.พิกุล                                
 3.แคฝรั่ง                         
 4.ตะลิงปลิง                      
 5.ยูคาลิปตัส                      
 6.หมากเขียว                    
 7.ซองออฟจาไมก้า           
 8.ยอบ้าน                       
 9.ทองกวาว
10.อโศกเซนคาเบรียล
11.โมกบ้าน
12.ไผ่ฟิลิปปินส์
13.จันทน์ผา
14.หมากคอนวล
15.วาสนา
16.เล็บครุฑจาน


   ตึก8
1.ประดู่บ้าน                           
2.ตะลิงปลิง                     
3.วาสนา                            
4.ชมพูพันธุ์ทิพย์
5.อินทนิล
6.ข่อย


   ตึก9
 1.ชมพูพันธุ์ทิพย์                         
 2.มะขาม                                
 3.ราชพฤกษ์                          
 4.กระทุ่มหูกวาง                     
 5.สาละลังกา                          
 6.หมากนวล
 7.โพธิ์ขี้นก
 8.อินทนิล
 9.พญาสัตบรรณ
10.โมก
11.ตะลิงปลิง
12.ชงโค


   ตึกคุณหญิงหรั่ง กันตารัติ
 1.จามจุรี                            
 2.ลั่นทมดอกขาว                  
 3.หมากแดง                       
 4.ชวนชม                        
 5.โมกบ้าน
 6.ชมพูพันธุ์ทิพย์
 7.ประดู่บ้าน
 8.ยางอินเดีย
 9.หมากเขียว                         
10.ต้นกาบหอยแครง


   ตึก 55 ปี
 1.หูกวาง                                   
 2.ชมพูพันธุ์ทิพย์                               
 3.กระทิง                                     
 4.ราชพฤกษ์                                 
 5.โมกบ้าน                              
 6.ฝรั่ง                                  
 7.ซองออฟจาไมก้า              
 8.หมากนวล                     
 9.จันทน์ผา                             
10.ไผ่น้ำเต้า
11.ลั่มทม
12.พิกุล
13.ปีบ
14.พญาสัตบรรณ
15.ตะลิงปลิง
16.ลั่นทมดอกแดง
17.ข่อย
18.สนฉัตร
19.หมากผู้หมากเมีย


   ตึก 60 ปี
 1.ประดู่                                                      
 2.ชมพูพันธุ์ทิพย์                        
 3.มะฮอกกานีใบเล็ก                    
 4.ไทรใบแหลม                           
 5.ปีบ                               
 6.ลั่นทมขาว                         
 7.หางนกยูงฝรั่ง
 8.มาฮอกกานี
 9.พญาสัตบรรณ
10.พิกุล
11.อ้อยช้าง
12.ต้นบุนนาค
13.ทองกวาว
14.ตีนเป็ด


   หลังตึก 60 ปี
 1.ต้นลีลาวดี                       
 2.ต้นว่านหางจระเข้                 
 3.ต้นมะตูม                          
 4.ต้นชำมะเลียง                     
 5.ต้นโคคลาน                    
 6.ต้นจิกนมยาน                  
 7.ต้นสารพัดพิษ                 
 8.ต้นม้ากระทืบโรง              
 9.ชะมวง                            
10.กะท้อ                          
11.หางไหลแดง               
12.ไพล                          
13.ขมิ้นชัน                   
14.เปล้าใหญ่                      
15.พุดซ้อน                                  
16.ข่า                                                    
17.ชุมเห็ดเทศ                                      
18.หญ้าหนวดแมว            
19.อบเชยญวน                     
20.กุหลาบวาเลนไทน์           
21.ลิ้นงูเห่า               
22.โนรา                       
23.ทับทิม                                   
24.มะกรูด                   
25.แคบ้าน                                     
26.ตะลิงปลิง                                     
27.หมาก                     
28.ขนุน                       
29.มะยม                    
30.พลู                           
31.ขจร                      
32.หญ้าปักกิ่ง                                   
33.ทองพันชั่ง                
34.เถาเอ็นอ่อน
35.ต้นชบา
36.ต้นนมแมว
37.ต้นบัวสวรรค์
38.ต้นตาลหม่อน
39.ต้นลำดวน
40.มะเฟือง
41.มะเกลือ
42.วาสนา
43.หนามแดง
44.ขี้เหล็ก
45.หญ้าแฝก
46.ว่านมหากาฬ
47.มะกอกน้ำ
48.มะขามป้อม
49.กระท้อน
50.มะขวิด
51.จันทน์กะพ้อ
52.แพงพวย
53.มะลิลา
54.โมก
55.ชะอม
56.ฝรั่ง
57.กระชายดำ
58.ตะไคร้
59.เหงือกปลาหมอ
60.จำปี
61.รางจืด
62.มะขาม
63.ผักหวานบ้าน
64.ยอบ้าน
65.คูน
66.สิรินธรวัลลี
67.เสลดพังพอนตัวผู้

แหล่งอ้างอิง
 : https://sites.google.com/site/tubotany2012/home